วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2551

การเปลี่ยนอาชีพเป็นArcher & Striker



ขั้นตอนการเปลี่ยนอาชีพ
1. ไปยัง Ancient Palace Guild ชั้น 2 Uptown เมือง Acropolis
2. คุยกับ Archer Master ที่ห้องทางทิศเหนือ
3. ไปหา Cocko Wing 1 ชิ้น จาก [ฺCocko] และ Branch 1 ชิ้น จากต้นไม้พวก Material Monster ที่ไม่โจมตีผู้เล่น
4. นำไอเทมที่หาได้ไปร้าน Smithy ทางใต้ Uptown เพื่อทำ Handicraft Arrow
5. หลังจากทำลูกธนูเสร็จ กลับไปหา Archer Master
6. ถอดไอเทมที่ใส่จากช่อง Equip ให้หมดเพื่อเปลี่ยนเป็น Archer
7. คุยกับ Archert Master อีกครั้งจะได้รับ Practice Bow และสกิล [Throw Create]
ขั้นตอนการเปลี่ยนอาชีพ striker
1. ไปยัง Ancient Palace Guild ชั้น 2 Uptown เมือง Acropolis
2. คุยกับ Archer Master ที่ห้องทางทิศเหนือ
3. ไปหา Lady Pamela ที่ East Acronia Coast
4. หา Fire Arrow 100 ดอก มาให้ดู (ซื้อที่ Northan)
5. รับเควส [ข้อสอบStriker(ปาร์ตี้)] จาก Lady Pamela โดยต้องใช้แต้มเควส 1 แต้ม ไปจัดการ Mokugyou 1 ตัว ใน Territory Cave ชั้น 5 ไม่มีการกำหนดระยะเวลา สามารถใช้วิธี ร่วมมือกับผู้ที่ต้องการจะเปลี่ยนอาชีพเดียวกันทำเควสนี้ได้
6. กลับไปหา Lady Pamela จะได้รับ [License (Quest)]
4. กลับไปหา Archer Master
6. ถอดไอเทมที่ใส่จากช่อง Equip ให้หมดแล้วคุยกับ Archer Master เพื่อเปลี่ยนเป็น Striker

การเปลี่ยนอาชีพเป็นScout&Assassin



ขั้นตอนการเปลี่ยนอาชีพ
1. ไปยัง Ancient Palace Guild ชั้น 2 Uptown เมือง Acropolis
2. คุยกับ Scout Master ที่ห้องทางทิศใต้
3. จะถูกวาร์ปไปยังแผนที่ Warship Island หรือ East Acronia Coast
4. วิ่งกลับไปหา Scout Master (ถ้าตายจะถูกวาปกลับมาที่npcคุมสอบในแมพWarshipIslandหรือEast Acronia Coast ตามที่ถูกวาปมา)
5. ถอดไอเทมที่ใส่จากช่อง Equip ให้หมดเพื่อเปลี่ยนเป็น Scout
6. คุยกับ Scout Master อีกครั้งจะได้รับ Secret Mask และสกิล [Hiding]
ขั้นตอนการเปลี่ยนอาชีพเป็นassassin
1. ไปยัง Ancient Palace Guild ชั้น 2 Uptown เมือง Acropolis
2. คุยกับ Scout Master ที่ห้องทางทิศใต้
3. ไปหา NPC ตามสถานที่ต่างๆ ดังนี้
เลข 1 [Scout Guild Member] ที่ Warship Island เลือกหัวข้อ [จะบินไปบนฟ้า]
เลข 2 [Scout Guild Member] ที่ East Acronia Coast แล้วเลือกหัวข้อ [เครื่องดื่ม!]
เลข 3 [Black Market Merchant] ที่ Nozarin Cape แล้วเลือกหัวข้อ [เรื่อยๆ]
เลข 4 [Mizughi] ที่ Volcano แล้วเลือกหัวข้อ [เลิกสนใจความร้อน] (เพราะว่า Geego นั้นน่ากลัวมาก ลองใช้วิธีคุยกับเขาทางด้านล่างของหน้าผา)
4. กลับไปหา Scout Master
6. ถอดไอเทมที่ใส่จากช่อง Equip ให้หมดแล้วคุยกับ Scout Master เพื่อเปลี่ยนเป็น Assassin

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551

การเปลี่ยนอาชีพFancer&Knight



ขั้นตอนการเปลี่ยนอาชีพ เป็น Fancer
1. ไปยัง Ancient Palace Guild ชั้น 2 Uptown เมือง Acropolis
2. คุยกับ Fencer Master ที่ห้องทางทิศตะวันตก
3. ไปหา Bee Poison 1 ชิ้น จาก [ฺKiller Bee](พบได้มากในแมพทางตะวันตก)(ทางซ้ายมือ)
4. นำ Bee Poison กลับมาให้ Fencer Master
5. ถอดไอเทมที่ใส่จากช่อง Equip ให้หมดเพื่อเปลี่ยนเป็น Fencer
6. คุยกับ Fencer Master อีกครั้งจะได้รับ Phantom Mask และสกิล [Lighting Spear]
ขั้นตอนการเปลี่ยนอาชีพ เป็น Knight
1. ไปยัง Ancient Palace Guild ชั้น 2 Uptown เมือง Acropolis
2. คุยกับ Fencer Master ที่ห้องทางทิศเหนือ
3. ไปหา [Miyagi] ที่ Iron City Pub ชั้นล่างเมือง Iron South
4. หา Ice Can จาก [Ogre] กลับมาให้ [Miyagi]
5. รับเควส [ดุจสายลม] จัดการกับ Lava Pururu 5 ตัวและ Geego 3 ตัว ในแผนที่ [Volcano] (โดยมีเวลาจำกัดเพียง 10 นาที ซึ่งรวมถึงเวลาในการเดินทางด้วย ใช้จำนวนแต้มเควส 1 แต้ม)
6. กลับไปหา [Miyagi] จะได้รับ [License (Quest)]
7. ไปหา Fencer Master ที่ Ancient Palace Guild
8. ถอดไอเทมที่ใส่จากช่อง Equip ให้หมดเพื่อเปลี่ยนเป็น Knight จะได้รับ Skill Point 1 แต้ม

การเปลี่ยนอาชีพSwordmsn&Blademaster



ขั้นตอนการเปลี่ยนอาชีพ swordman
1. ไปยัง Ancient Palace Guild ชั้น 2 Uptown เมือง Acropolis
2. คุยกับ Swordman Master ที่ห้องทางทิศตะวันออก
3. ไปหา Meat 1 ชิ้น จาก [ฺBau]
4. นำ Meat กลับมาให้ Swordman Master
5. ถอดไอเทมที่ใส่จากช่อง Equip ให้หมด(ย้ำว่าให้หมด)เพื่อเปลี่ยนอาชีพ(npcแก่แล้วยังหื่น-*-)
6. ใส่เสื้อผ้าแล้วคุยกับ Swordman Master อีกครั้งจะได้รับ Swordman's symbol และสกิล [IaI]

ขั้นตอนการเปลี่ยนอาชีพ เป็นBlademaster(จ๊อบเลเวล30ขึ้นไป)
1. ไปยัง Ancient Palace Guild ชั้น 2 Uptown เมือง Acropolis
2. คุยกับ Swordman Master ที่ห้องทางทิศตะวันออก (ตาแก่คนเดิมนั่นแล)
3. ไปหา [Miyagi] ที่ Iron City Pub ชั้นล่างเมือง Iron South
4. หา Black Vinegar จาก [Pepen South Country] กลับมาให้ [Miyagi]
5. รับเควส [ดุจสายลม] จัดการกับ Lava Pururu 5 ตัวและ Geego 3 ตัว ในแผนที่ [Volcano] (โดยมีเวลาจำกัดเพียง 10 นาที ซึ่งรวมถึงเวลาในการเดินทางด้วย ใช้จำนวนแต้มเควส 1 แต้ม) (ทำหยั่งกับเราเป็นนักวิ่งอลปงั้นอ่ะ)
6. กลับไปหา [Miyagi] จะได้รับ [License (Quest)]
5. ไปหา Swordman Master ที่ Ancient Palace Guild
6. ถอดไอเทมที่ใส่จากช่อง Equip ให้หมดเพื่อเปลี่ยนเป็น Blade Master

อาชีพต่างๆในECO

ในโลกของ Emil Chronicle Online นั้น สามารถเลือกอาชีพที่จะเป็นได้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ สาย Fighter (สายการโจมตีโดยตรง), สาย Spell User (เน้นการร่ายเวทมนต์), สาย Backpacker (สายการผลิต และรวบรวม)
First Job
ตัวละครที่เริ่มลงมาผจญภัยในดินแดน Acronia นั้นจะมีอาชีพเป็น Novice เมื่อผ่านเกณฑ์ที่กำหนดก็จะเข้ารับตำแหน่งในอาชีพต่างๆ ได้ ซึ่งอาชีพแรกนั้นมีทั้งหมด 12 อาชีพ โดยเกณฑ์ของสายต่างๆมีดังนี้
สายFT เงื่อนไขการเปลี่ยนอาชีพ
1. STR 10
2. ไม่จำกัดเลเวลหรือจ็อบเลเวล
สายSUเงื่อนไขการเปลี่ยนอาชีพ
1. MAG 10
2. ไม่จำกัดเลเวลหรือจ็อบเลเวล
สายBPเงื่อนไขการเปลี่ยนอาชีพ
1. ไม่ต้องการค่าสถานะใดเป็นพิเศษ
2. ไม่จำกัดเลเวลหรือจ็อบเลเวล
(เปลี่ยนอาชีพได้ทันที)
Expert Job
เป็นอาชีพขั้นผู้ชำนาญซึ่งจะมีskill และความสามารถ เพิ่มมากกว่าFirst jobมาก

เงื่อนไขทั่วไปในการเปลี่ยนExpert job
เมื่อเป็น Job 1 จนกระทั่งมี Job Level ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป ก็จะสามารถไปเปลี่ยนอาชีพเป็น Expert Job ได้ทันที แต่หากทำการเปลี่ยนแล้ว Job Level ของ Job 1 จะไม่เพิ่มขึ้นอีก
ในการเปลี่ยนอาชีพนั้น ทุกอาชีพจำเป็นจะต้องผ่านตาม Event ที่กำหนด
เมื่อเป็น Expert Job แล้ว ยังคงสามารถเรียนสกิล หรือเพิ่ม Skill Level ของสกิลที่เรียนแล้วใน Job 1 ได้ แต่มีข้อแม้ว่า สกิลที่ไม่สามารถเรียนได้ ณ ตอนที่ทำการเปลี่ยนจาก Job 1 เป็น Job 2 ก็จะไม่สามารถเรียนได้
ตัวอย่างเช่น
ในกรณีที่เปลี่ยนอาชีพในขณะที่มี Job Level ของ Job 1 คือ 40 หลังจากเปลี่ยนแล้ว สกิลที่สามารถเรียนได ้เมื่อ Job Level 41-50 ก็จะไม่สามารถเรียนได้
หากไม่รีบร้อน หรือมีเหตุจำเป็นพิเศษอะไร ก็แนะนำให้เปลี่ยนอาชีพตอน Job Level 50 จะดีที่สุด
ต่อให้ไม่มีสกิลในช่วง Job Level 31-50 ที่น่าสนใจ หรือต้องการจะใช้ก็ตาม แต่ในอนาคต อาจจะมีการปรับเปลี่ยน หรือเพิ่มเติมสกิลใหม่เข้ามาในภายหลังก็เป็นได้
FIGHTER
FIRST JOB /EXPERT JOB /TECHNICAL JOB
Swordman /BladeMaster /Bounty Hunter
Fencer /Knight /Dark Stalker
Scout /Assassin /Commando
Archer /Striker /Gunner


SPELL USER
FIRST JOB /EXPERT JOB /TECHNICAL JOB
Wizard /Sorcerer /Sage
Shaman /Elementaler /Enchanter
Vates /Druid /Bard
Warlock /Kabbalist /Necromancer


BACKPACKER
FIRST JOB /EXPERT JOB /TECHNICAL JOB
Tatarabe /Blacksmith /Machinery
Farmer /Alchemist /Marionest
Ranger /Explorer /Treasure Hunter
Merchant /Trader /Gambler


ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.eco.in.th/

3เผ่าพันธุ์ ใน เกม ECO

Emil เผ่ามนุษย์
เป็นเผ่าพันธุ์ที่เปี่ยมไปด้วย พลังชีวิต HP(พูดง่ายๆอึด-*-) สามารถติดตั้งสวมใส่ไอเทมได้หลากหลาย เติบโตง่าย เป็นเผ่าที่เหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่ เหมาะกับอาชีพสาย Fighter และ Backpacker

Titania เผ่าฑูตสวรรค์
เป็นเผ่าที่เปี่ยมไปด้วย พลังเวทมนต์ MAG และ INT(ใช้เวทเหมาะสุด^^) เป็นเผ่าที่เหมาะกับอาชีพสาย Spell User เป็นพิเศษ เหมาะสำหรับผู้เล่นระดับกลางที่ชอบการเล่นเป็นกลุ่ม (หมู่นี่หว่า....)

Dominion เผ่าปิศาจ
เดินทุกก้าวย่างด้วยความมั่นใจ ไปตามใจปรารถนา มาที่โลกมนุษย์เพื่อแสวงหาการต่อสู้ และชัยชนะ เป็นเผ่าที่พรั่งพร้อมในเรื่อง พลังโจมตี(บ้าพาว)แต่จำเป็นจะต้องใช้สิ่งปกคลุมตนเองเพื่อแก้ไขเรื่องความอ่อนแอ(ตายง่าย) เป็นเผ่าที่เหมาะกับสาย Spell User และ สาย Fighter (พลังเวทอยู่ในระดับที่น่าพอใจทีเดียว)

ECO รู้ก่อนเล่นได้เปรียบเป็นไหนๆ

สถานที่ที่ควรรู้จักของuptown


สถานที่ควรรู้จักใน Downtown


โกดัง หรือคลังเก็บไอเทมของผู้เล่นแต่ละ Account จะสามารถเปิดใช้ได้ทันทีที่ NPC Merchant Guild (พ่อค้าขายของที่มีอยู่ทุกทิศ ทั้งในและนอกเมือง) โดยที่เมือง Acropolis City (เมืองหลวง) จะไม่เสียค่าบริการในการฝากหรือถอนไอเทม แต่หากเป็นที่เมืองอื่นๆ จะคิดค่าบริการครั้งละ 100 Gold และสามารถจุของได้100ชนิดแต่ไม่จำกัดจำนวนของสิ่งของแต่ละชนิด

ข้อควรระวังในการใช้โกดังเก็บของ: ไอเทมที่ฝากที่เมืองไหนก็จะต้องไปเอาออกมาที่เมืองนั้น เช่น หากฝากของที่ Merchant guild ที่อยู่ในเมือง Northan ก็จะไม่สามารถนำของออกมาจาก Merchant Guild ที่อยู่ใ่นเมือง Acropolis ได้ เป็นต้น
----------------------------------------------------------------------------------
เมื่อสร้างตัวละครใหม่ทุกตัว จะได้รับ Quest Point 3 แต้ม โดยในการรับเควสท์แต่ละเควสท์นั้น จะต้องใช้ Quest Point ที่มีอยู่นี้ด้วย โดยทั่วไปจะใช้ 1 แต้มในการรับแต่ละเควสท์ หากเควสท์ที่รับจำเป็นจะต้องใช้แต้มเควสท์มากกว่านั้น ก็จะมีแจ้งจาก NPC ที่รับเควสท์นั้นด้วย และเมื่อใช้ Quest Point หมดแล้ว จำเป็นจะต้องรออีก 24 ชั่วโมง (นับตามเวลาจริง) จึงจะเพิ่มให้อีก 5 แต้ม หากผู้เล่นไม่มีการรับเควสท์เลย t Point นี้จะสะสมไปเรื่อยๆ แต่เก็บไว้ได้สูงสุด 15 แต้มเท่านั้น การตรวจสอบสถานะของเควสท์รวมถึง Quest Point ที่เหลืออยู่ทำได้โดยกด Ctrl+Y หรือ เปิดหน้า Quest นั่นเอง
การรับเควสท์ที่สะดวกที่สุดคือรับได้ที่ Quest Counter ที่มีอยู่นอกเมืองทั้ง 4 ทิศ โดยการเลือกรับเควสท์นั้น ควรเลือกเควสท์ที่มีชื่อสีเหลือง ซึ่งเป็นเควสท์ที่มีความเหมาะสมกับตัวละครมากที่สุด ระดับจะไม่ยากหรือง่ายเกินไป ทั้งยังได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับ เลเวล ของตัวละครในขณะนั้นด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------
การรับ Marionette ฟรี
เมื่อตัวละครมีเลเวล 8 ให้เข้าไปยัง Uptown หน้า Black Church ซ้ายมือ จะพบ Ruruie

คุยกับเธอเกี่ยวกับเรื่อง Marionette แล้วเธอจาแปลงร่างให้ดู จากนั้นจะถามเราว่าเราอยากได้ตัวไหน (เลือกได้ตัวเดียวต่อ 1 Account ตัวละครที่ Create มาตัวที่ 2 จะรับไม่ได้อีก) ซึ่ง Marionette จะใช้ได้ 3 นาที โดยไม่เดินตัดฉาก หลังจากนั้นต้องพัก 5 นาทีก็จะใช้ได้อีกครั้ง *และในขณะที่แปลงเป็น Marionette หากเปิดหน้าต่างสกิลดู (Ctrl+S) จะมีสกิลของ Marionette ชนิดนั้นๆปรากฎขึ้น ให้นำมาวางใส่ Shortcut ได้เลย โดย Marionette ที่รับได้มีทั้งหมด 4 ตัวซึ่งจะมีคุณสมบัติเฉพาะดังต่อไปนี้
1 Salamandra จุดเด่น คือ HP ที่ฟื้นฟูตลอดเวลา (เร็วที่สุดในบรรดา 4 ตัว) แต่ข้อเสียคือจะโจมตีได้ช้าลง
2 Insmouse จุดเด่น คือการฟื้นฟู SP ตลอดเวลา ทำให้สามารถใช้ท่าสกิลโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง (ไม่เหมาะกับสาย Spell User) เพราะตัว Insmouse นี้จะลดค่า MAG ลง 10
3 Mandragola จุดเด่น ฟื้นฟู MP ตลอดเวลา ทั้งการโจมตีด้วยเวทมนตร์ที่สูงขึ้น เหมาะสำหรับสาย Spell User
4 Electel จุดเด่นคือ STR+11 การโจมตีโดยพื้นฐานจะแรงขึ้น ทั้ง VIT เพิ่มอีก 20 ค่า HP จึงเพิ่มขึ้นไม่น้อย แต่อัตราการฟื้นฟู HP จะไม่ดีเหมือน Salamandra ทั้ง AGI จะถูก ลบถึง 13

---------------------------------------------------------------------------------
เอาล่ะครับข้อมูลส่วนใหญ่เกี่ยวกับการเล่นพื้นฐานก็ถูกนำเสนอไปแล้วสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมจะเพิ่มในตอนต่อไปครับ

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

Notice

กระผมสปินนิ่งดิฟ ต้องหยุดการอัพบล๊อกก่อนนะครับเนื่องจากการงานไม่เอื้ออำนวยเวลาให้มานั่งอัพ
ขออภัยทุกท่านครับ

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Thai Mcdonald

ประวัติของแมคโดนัลด์ในประเทศไทย สามารถนับย้อนหลังไปถึงช่วงปี พ.ศ. 2511 เมื่อคุณเดช บุลสุข ได้รับทุนเอเอฟเอส (AFS หรือ American Field Service) ไปศึกษาที่สหรัฐอเมริกา และได้รับความประทับใจในรสชาติและบริการของแมคโดนัลด์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2524 เมื่อคุณเดชได้กลับไปเที่ยวที่สหรัฐอเมริกาในฐานะนักธุรกิจหนุ่ม เขาและเพื่อน ๆ กลุ่มหนึ่งได้ส่งจดหมายไปที่สำนักงานใหญ่ของแมคโดนัลด์ในเมือง Oak Brook รัฐ Illinois เพื่อเชิญชวนให้มาเปิดสาขาในประเทศไทย หลังจากนั้นอีก 2 ปี จึงได้รับการตอบรับและได้รับการคัดเลือกจากผู้สมัครเป็นจำนวนมากให้เป็นตัวแทนของแมคโดนัลด์ในประเทศไทยในที่สุด

บริษัท แมคไทย จำกัด จึงถือกำเนิดขึ้นจากการตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง คุณเดช บุลสุข กับ แมคโดนัลด์ คอร์เปอร์เรชั่น โดยมีคุณเดช เป็นกรรมการผู้จัดการ

ในประเทศไทย ร้านแมคโดนัลด์เปิดสาขาแรกที่อัมรินทร์พลาซ่า เมื่อปีพ.ศ. 2528 สามารถจุคนได้ประมาณ 200 คน ลงทุนครั้งแรกเป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท รวมค่าก่อสร้างและที่ดิน การตกแต่งภายใน การส่งเสริมการตลาด ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ ในครัว

สำหรับผู้บริหารแมคโดนัลด์ในประเทศไทย ความประทับใจในแมคโดนัลด์ไม่ได้อยู่เพียงรสชาติและบริการที่ถูกใจเท่านั้น หากยังประทับใจในนโยบายของแมคโดนัลด์ซึ่งจะนำความเจริญมาสู่ทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งทางธุรกิจและสังคมด้วย

ปัจจุบันแมคโดนัลด์ประเทศไทยมีทั้งหมด 85 สาขา (กรกฎาคม 2543) ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ชลบุรี พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และ หาดใหญ่



แมคโดนัลด์คอร์เปอร์เรชั่น เป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้านบริการอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริหาร สาขากว่า 27,000 สาขา ทั้งในสหรัฐอเมริกาและนานาประเทศถึง 119 ประเทศ โดยยึดหลักการให้บริการอาหารที่มีคุณภาพสูงในราคาคุ้มค่า จากประวัติอันยาวนานกว่า 40 ปี บริษัทเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องเทคโนโลยีด้านบริการอาหารประเภท QUICK SERVICE RESTAURANT (หรืออาหารบริการด่วน) ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี เทคนิคด้านการตลาด และระบบการบริหารงาน ซึ่งได้รับการยอมรับให้เป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรมนี้

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

History of Mcdonald

บางคนคงสงสัยนะครับว่าผมจู่ๆผมกลับมาอัพทำไมเรื่องแมคโดนัล
แหม่...เรื่องก็มีอยู่ว่า
เดินผ่านร้านแมคโดนัลด์นะครับ ก็สงสัยว่ามันเป็นมายังไง
ก็เลยค้นซะเลย
เรื่องมีอยู่ว่า
once upon the time ...
มร. เรย์ คร็อค (Ray Kroc) ซึ่งเกิดในตระกูลชนชั้นกลางทางภาคตะวันตกตอนกลางของสหรัฐอเมริกา เขาออกจากโรงเรียนตั้งแต่มัธยมต้น เริ่มทำงานตั้งแต่เป็นคนเล่นเปียโนในบาร์เล็กๆ เป็นเซลส์แมน ขายบ้านและที่ดิน ขายถ้วยกระดาษ (ซึ่งเป็นของใหม่ในขณะนั้น) จนถึงเป็นเซลส์แมนขายเครื่อง มัลติมิกเซอร์ (MULTI-MIXER) ที่สามารถปั่น มิลค์เชค ได้คราวละ 5 ถ้วย

ในระหว่างที่ขายเครื่องปั่น มัลติมิกเซอร์ อยู่นั้น เขาก็ได้พบลูกค้ารายหนึ่งซึ่งนำความประหลาดใจมาให้เขาเป็นอันมาก เพราะลูกค้ารายนี้ได้สั่งซื้อเครื่องปั่นถึง 8 เครื่องสำหรับใช้ในร้านอาหารเพียงร้านเดียว และลูกค้ารายนั้นก็คือ ร้านแฮมเบอร์เกอร์แบบไดร์ฟทรูชื่อ แมคโดนัลด์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ชื่อ ซาน เบอร์นาดิโน (San Bernadino) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ร้านแฮมเบอร์เกอร์ดังกล่าวเป็นของแมค และ ดิ๊ก พี่น้องตระกูลแมคโดนัลด์ ซึ่งได้พัฒนาระบบการผลิตย่อยๆ ขึ้นมาในร้าน โดยยึดหลักว่า
“แฮมเบอร์เกอร์และเฟรนช์ฟรายส์ทุกชิ้นจะต้องมีคุณภาพและรสชาติอร่อยเหมือนกันหมดและบริการด้วยความรวดเร็ว”
ในตอนแรก เรย์ คร็อค เซลส์แมนผู้ช่ำชอง มองลู่ทางที่เขาจะขายเครื่อง มัลติมิกเซอร์ ได้มากขึ้น โดยแนะนำให้สองพี่น้อง นำหลักการนี้ไปเปิดสาขาขึ้นทั่วสหรัฐฯ แต่พี่น้อง แมคโดนัลด์ ไม่ต้องการรับภาระอันหนักในการขยายกิจการ เขาจึงตัดสินใจร่วมลงทุนและเข้ามาบริหารงาน โดยเปิดร้านแฮมเบอร์เกอร์ภายใต้ชื่อ แมคโดนัลด์ (McDonald's) ซึ่งใช้หลักการเดียวกันและจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงิน 0.5% ของรายได้ทั้งหมดให้แก่พี่ น้อง แมคโดนัลด์ และในปี ค.ศ 1955 (พ.ศ. 2498) เมื่อเรย์อายุได้ 52 ปี ร้านแมคโดนัลด์ร้านแรกของเขาจึงได้ถือกำเนิดขึ้นที่ เมืองเดสเพลน (Desplaines) ใกล้เมืองชิคาโก้ และขยายสาขาต่อมาเรื่อยๆ ทั่วสหรัฐฯ จนในที่สุดเขาได้ซื้อกิจการจากพี่น้อง แมคโดนัลด์ ในราคา 2.7 ล้านเหรียญ

นับแต่นั้นมา เรย์ คร็อค ผู้ที่ทำร้านแฮมเบอร์เกอร์เล็กๆ ธรรมดาให้เป็นธุรกิจที่มีเครือข่ายทั่วโลก ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งอุตสาหกรรมด้านการบริการอาหารประเภทบริการด่วน QUICK SERVICE RESTAURANT

เครดิท ข้อมูลจาก http://www.mcthai.co.th/history.html

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

เปิดเทอม

จะเปิดเทอมแล้วนะครับทุกคน
ขอให้ตั้งใจเรียนกันมากๆนะ
ส่วนตัวผมคงไม่มีเวลามานั่งอัพบล๊อกนะครับ
ก็ต้องขออภัยไว้ด้วย

วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2551

‼Ring Emblem Contest ครั้งที่ 1‼

ประกวด ภาพ Emblem ริง นะครับ
โดย ผู้ที่สนใจส่งภาพเข้าประกวด ต้องส่งภาพที่มีสมบัติดังนี้
--------------------------------------
1.ไม่ได้ก๊อปริงอื่นมา
2.ไม่ใช่ตัวการ์ตูน
3.ไม่ใช่ภาพโป๊,อนาจาร
--------------------------------------
โดยเกณฑ์ การตัดสินจะขึ้นอยู่ กับ "รองหัวหน้าริง" เพียงผู้เดียวเท่านั้น
โดยเราจะไม่ให้รองหัวหน้าริงรู้ว่าภาพแต่ละภาพเป็นของใคร

♣รางวัล♣
เงินในเกม 250,000G ถ้วนครับ "สองแสนห้าหมื่นจี" ไม่ขาดไม่เกินครับ
♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣
♦สำหรับเจ้าของภาพเราจะเครดิทชื่อเวลาเอาลงบล็อกหรือกระทู้ครับ♦
♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣
สำหรับคนที่ต้องการส่งภาพเข้าประกวดนะครับส่งมาที่ holidays_heroes@hotmail.com
ปล. สำหรับภาพที่ชนะการประกวดเราจะย่อเป็นขนาด24*24แล้วใส่เป็นEmblem ริงเองครับ
ปลล.ส่งมาขนาดเท่าไหร่ก็ได้ครับ
ปลลล.หมดเขตรับภาพ1พฤษภาคม 2551 ครับ

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2551

วันแรงงานแห่งชาติ

วันแรงงานแห่งชาติ

ความเป็นมา

แรงงานคือพลังการผลิต นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดผลผลิตในระบบเศรษฐกิจ พลังของผู้ใช้แรงงานจะแฝงอยู่ในผลผลิตทุกชิ้น ความมั่นคงก้าวหน้าหรือความอ่อนแอล้าหลังทางเศรษฐกิจย่อมชี้ขาดด้วยพลังการผลิตคือแรงงาน
เมื่ออุตสาหกรรมขยายตัว แรงงานก็มีปัญหา และปัญหาแรงงานดังกล่าวก็มีความสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น ในเมืองไทยได้เริ่มมีการจัดการบริหารแรงงานขึ้นในปี พ.ศ. 2475 เมื่อรัฐบาลได้ออกพระราชบัญญัติจัดหางาน พ.ศ. 2475 และพระราชบัญญัติจัดหางานประจำท้องถิ่น พ.ศ. 2475
การบริหารแรงงาน หมายถึงการจัดสรรและพัฒนาแรงงานคุ้มครองดูแลสภาพการทำงาน สร้างรากฐานและขบวนการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภาระการสร้างงานการประกอบอาชีพ

เมื่อ พ.ศ. 2477 ได้มีการจัดตั้งกองกรรมกรขึ้น ทำหน้าที่ด้านการจัดหางานและศึกษาภาวะความเป็นอยู่ของคนงานทั่วไป พ.ศ. 2499 รัฐบาลได้ขยายกิจการด้านแรงงานสัมพันธ์มากขึ้นและประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับแรกในปี พ.ศ. 2508 และปีเดียวกันได้มีการตั้งกรมแรงงานขึ้น อีกทั้งประกาศใช้พระราชบัญญัติกำหนดวิธีระงับข้อพิพาทแรงงาน

ปัจจุบัน การบริหารแรงงานอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมมีงานสำคัญเกี่ยวข้องกับแรงงานดังนี้
1. การจัดหางาน ด้วยการช่วยเหลือคนว่างงานให้มีงานทำ ช่วยเหลือนายจ้างให้ได้คนมีคุณภาพดีไปทำงาน รวบรวมเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับการทำงาน แหล่งงาน ภาวะตลาดแรงงาน
2. งานแนะแนวอาชีพ ให้คำปรึกษาแก่เยาวชนและผู้ประสงค์จะทำงาน เพื่อให้สามารถเลือกแนวทางประกอบอาชีพที่เหมาะสมตามความถนัด ความสามารถทางร่างกาย คุณสมบัติ บุคลิกภาพและความเหมาะสมแก่ความต้องการทางเศรษฐกิจ
3. การพัฒนาแรงงาน ส่งเสริมพัฒนาฝีมือแก่คนงานและเยาวชนที่ไม่มีโอกาสศึกษาต่อโดยการฝึกแบบเร่งรัด
4. งานคุ้มครองแรงงาน วางหลักการและวิธีการเกี่ยวกับชั่วโมงทำงาน วันหยุดงาน ตลอดจนการจัดให้มีสวัสดิการต่างๆ
5. งานแรงงานสัมพันธ์ทำการส่งเสริมและสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจถึงลักษณะและสภาพของปัญหา ตลอดจนวิธีการที่เหมาะสมที่จะช่วยขจัดความเข้าใจผิดและข้อขัดแย้งอื่นๆ


ด้านกรรมกร ได้มีการจัดตั้งกลุ่มสหภาพแรงงานขึ้นหลายร้อยกลุ่มและรวมกันจัดตั้งสภาองค์การลูกจ้างขึ้น ทำหน้าที่พิทักษ์สิทธิให้กับผู้ใช้แรงงาน ปัจจุบันมี 3 สภา ได้แก่

1. สภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย

2. สภาองค์การลูกจ้างแห่งประเทศไทย

3. สภาองค์การแรงงานแห่งประเทศไทย

เพื่อเป็นการยกย่องผู้ใช้แรงงานในประเทศไทย รัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันแรงงานแห่งชาติ ตามคณะพรรคสังคมนิยมระหว่างชาติได้กำหนดไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2432 โดยประเทศในยุโรปส่วนมากก็กำหนดวันที่ 1 พฤษภาคม เป็นวันแรงงาน ในวันนี้ผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่จะได้รับอนุญาตจากนายจ้างให้หยุดงานได้ 1 วันเพื่อเฉลิมฉลองและตระหนักถึงหน้าที่ความสำคัญของผู้ใช้แรงงาน

วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2551

JunK Food

คำว่า Junk Food เป็นศัพท์แสลงของอาหารที่มีสารอาหารจำกัด หรือที่เรียกกันว่า อาหารขยะ อาหารไร้ประโยชน์ อาหารที่นักโภชนาการไม่เคยแนะนำ อะไรทำนองนี้ แต่ขึ้นชื่อว่า Junk Food จะต้องประกอบด้วยสารอาหารที่ให้พลังงานเป็นส่วนใหญ่ เช่น น้ำตาล ไขมัน แป้ง และมีส่วนประกอบโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ น้อยมาก ตัวอย่างเช่น ขนมขบเคี้ยวรสเค็ม รสหวาน ลูกอม หมากฝรั่ง ขนมหวานทุกชนิด อาหารทอด อาหารจานด่วนบางชนิด และน้ำอัดลม หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Empty Calorie มีความหมายว่า ไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์เลย เทียบกับอาหารไทยโดยพื้นฐานแล้วในหนึ่งจานให้คุณค่าหลากหลาย ไขมันต่ำกว่า อุดมด้วยสมุนไพรที่เป็นคุณต่อสุขภาพ แต่ด้วยความเร่งรัดของวิถีชีวิต ทำให้คนไม่มีเวลาเลือกหา และไม่ยอมเสียเวลาปรุงอาหารรับประทานเอง อย่างน้อยหนึ่งมื้อในหนึ่งวันของใครหลายคนจึงเลือก Junk Food เป็นทางออก ขณะเดียวกันก็ยอมเสียสตางค์แพงๆ เลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมาเติมเต็มทดแทนส่วนที่ขาดหายไป …ถ้าคนไทยไม่รู้จักแฮมเบอร์เกอร์ เฟรนซ์ฟราย พิซซ่า แต่ยังคงกินน้ำพริกปลาทู ข้าวกล้อง ส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง แกงส้ม… โรคไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน เบาหวาน และอื่นๆ อีกมากมายก็ไม่น่าจะเจอในคนอายุน้อยๆ เหมือนที่พบมากในปัจจุบัน ที่สำคัญเงินทองไม่รั่วไหลออกนอกประเทศจำนวนมหาศาลต่อปี

Junk Food ส่วนใหญ่จะให้พลังงานที่ได้มาจากส่วนประกอบ 3 อันดับแรกคือ น้ำตาล ไขมัน และแป้ง ดังนั้นต้องพิจารณาให้ดีอาหารสำเร็จรูปบางชนิดจะมีฉลากโภชนาการแจ้งให้ทราบ

อาหาร Junk Food ยอดนิยมยังขาดสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายอยู่หลายชนิด และในทางตรงกันข้ามก็มีพลังงานหรือสารอาหารบางตัวที่ยังไม่สมดุลกับความต้องการ การดูแลสุขภาพร่างกายให้พร้อมสำหรับชีวิตประจำวัน เพื่อให้ร่างกายมีความสมบูรณ์และแข็งแรงในรูปแบบง่ายๆ ซึ่งเราๆ ท่านๆ ท่องจำขึ้นใจเป็นเสียงเดียวกันว่า หนึ่ง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สอง รับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ และสาม พักผ่อนให้เพียงพอ แต่ถามว่ามีสักกี่คนที่ปฏิบัติทั้ง 3 ข้อนี้ได้อย่างแท้จริง

วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2551

!ประกาศรับสมัคร! ~20เมษายน2551~

รับสมัครคนที่มีความคิดดีๆหรือความรู้ดีๆและต้องการเขียนลงบล็อกเรามาเป็นทีมงานครับติดต่อมาที่
holidays_heroes@hotmail.com ครับ
ปล.งานนี้ไม่มีค่าแรงนะครับ~

วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2551

!ประกาศ! - 16 เมษา 2551-

ต้องขออภัยทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เนื่องจากผมติดธุระบางอย่างเลยทำให้ไม่สามารถ
มาอัพบทความใหม่ๆได้นะครับ ก็ต้องขออภัยคนที่ติดตามอ่าน(หวังว่าคงมี)บทความของบล็อกเรานะครับ

วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2551

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ(โรงเกรียนก.เกรียนวิทยาฝากมา)



ขอแสดงความยินดีกับเด็กเกรียนแฮม รักการเกรียน นะครับ โรงเกรียนก.เกรียนวิทยาฝากมาครับ
ขอยินดีกับใบเกรียนติบัตรที่ได้รับนะครับ ขอให้มีความสุขและรักษาความเกรียนไว้ตลอดไปนะครับ
ปล.บทความนี้ไร้สาระแต่โปรดอย่าคิดมาก

วันเสาร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2551

ตำนานนางสงกรานต์

--- ตำนานนางสงกรานต์ ---
ตามจารึกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กล่าวตามพระบาลีฝ่ายรามัญว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเศรษฐีคนหนึ่ง รวยทรัพย์แต่อาภัพบุตร ตั้งบ้านอยู่ใกล้กับนักเลงสุราที่มีบุตรสองคน วันหนึ่งนักเลงสุราต่อว่าเศรษฐีจนกระทั่งเศรษฐีน้อยใจ จึงได้บวงสรวงพระอาทิตย์ พระจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐานอยู่กว่าสามปี ก็ไร้วี่แววที่จะมีบุตร อยู่มาวันหนึ่งพอถึงช่วงที่พระอาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ เศรษฐีได้พาบริวารไปยังต้นไทรริมน้ำ พอถึงก็ได้เอาข้าวสารลงล้างในน้ำเจ็ดครั้ง แล้วหุงบูชาอธิษฐานขอบุตรกับรุกขเทวดาในต้นไทรนั้น รุกขเทวดาเห็นใจเศรษฐี จึงเหาะไปเฝ้าพระอินทร์ ไม่ช้าพระอินทร์ก็มีเมตตาประทานให้เทพบุตรองค์หนึ่งนาม "ธรรมบาล" ลงไปปฏิสนธิในครรภ์ภรรยาเศรษฐี ไม่ช้าก็คลอดออกมา เศรษฐีตั้งชื่อให้กุมารน้อยนี้ว่า ธรรมบาลกุมาร และได้ปลูกปราสาทไว้ใต้ต้นไทรให้กุมารนี้อยู่อาศัย
ต่อมาเมื่อธรรมบาลกุมารโตขึ้น ก็ได้เรียนรู้ซึ่งภาษานก และเรียนไตรเภทจบเมื่ออายุได้เจ็ดขวบ เขาได้เป็นอาจารย์บอกมงคลต่าง ๆ แก่คนทั้งหลาย อยู่มาวันหนึ่ง ท้าวกบิลพรหม ได้ลงมาถามปัญหากับธรรมบาลกุมาร 3 ข้อ ถ้าธรรมบาลกุมารตอบได้ก็จะตัดเศียรบูชา แต่ถ้าตอบไม่ได้จะตัดศีรษะธรรมบาลกุมารเสีย ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาลกุมารว่า ตอนเช้าศรีอยู่ที่ไหน ตอนเที่ยงศรีอยู่ที่ไหน และตอนค่ำศรีอยู่ที่ไหน ทันใดนั้นธรรมบาลกุมารจึงขอผัดผ่อนกับท้าวกบิลพรหมเป็นเวลา 7 วัน
ทางธรรมบาลกุมารก็พยายามคิดค้นหาคำตอบ ล่วงเข้าวันที่ 6 ธรรมบาลกุมารก็ลงจากปราสาทมานอนอยู่ใต้ต้นตาล เขาคิดว่า ขอตายในที่ลับยังดีกว่าไปตายด้วยอาญาท้าวกบิลพรหม บังเอิญบนต้นไม้มีนกอินทรี 2 ตัวผัวเมียเกาะทำรังอยู่ นางนกอินทรีถามสามีว่า พรุ่งนี้เราจะไปหาอาหารแห่งใด สามีตอบนางนกว่า เราจะไปกินศพธรรมบาลกุมาร ซึ่งท้าวกบิลพรหมจะฆ่าเสีย ด้วยแก้ปัญหาไม่ได้ นางนกจึงถามว่า คำถามที่ท้าวกบิลพรหมถามคืออะไร สามีก็เล่าให้ฟัง ซึ่งนางนกก็ไม่สามารถตอบได้ สามีจึงเฉลยว่า ตอนเช้า ศรีจะอยู่ที่หน้า คนจึงต้องล้างหน้าทุก ๆ เช้า ตอนเที่ยง ศรีจะอยู่ที่อก คนจึงเอาเครื่องหอมประพรมที่อก ส่วนตอนเย็น ศรีจะอยู่ที่เท้า คนจึงต้องล้างเท้าก่อนเข้านอน ธรรมบาลกุมารก็ได้ทราบเรื่องที่นกอินทรีคุยกันตลอด จึงจดจำไว้
ครั้นรุ่งขึ้น ท้าวกบิลพรหมก็มาตามสัญญาที่ให้ไว้ทุกประการ ธรรมบาลกุมารจึงนำคำตอบที่ได้ยินจากนกไปตอบกับท้าวกบิลพรหม ท้าวกบิลพรหมจึงตรัสเรียกธิดาทั้งเจ็ดอันเป็นบาทบาจาริกาพระอินทร์มาประชุมพร้อมกัน แล้วบอกว่า เราจะตัดเศียรบูชาธรรมบาลกุมาร ถ้าจะตั้งไว้ยังแผ่นดิน ไฟก็จะไหม้โลก ถ้าจะโยนขึ้นไปบนอากาศ ฝนก็จะแล้ง ถ้าจะทิ้งในมหาสมุทร น้ำก็จะแห้ง จึงให้ธิดาทั้งเจ็ดนำพานมารองรับ แล้วก็ตัดเศียรให้นางทุงษะ ผู้เป็นธิดาองค์โต จากนั้นนางทุงษะก็อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมเวียนขวารอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที แล้วเก็บรักษาไว้ในถ้ำคันธุลี ในเขาไกรลาศ
จากนั้นมาทุก ๆ 1 ปี ธิดาของท้าวกบิลพรหมทั้ง 7 ก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาทำหน้าที่อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมแห่ไปรอบเขาพระสุเมรุ เป็นเวลา 60 นาที แล้วประดิษฐานตามเดิม ในแต่ละปีนางสงกรานต์แต่ละนางจะทำหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันตามวันมหาสงกรานต์ ดังนี้
ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม ทุงษะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราช ภักษาหารอุทุมพร (ผลมะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จมาบนหลังครุฑ
ถ้าวันจันทร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม โคราคะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกปีบ อาภรณ์แก้วมุกดา ภักษาหารเตลัง (น้ำมัน) พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังพยัคฆ์ (เสือ)
ถ้าวันอังคารเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม รากษสเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกบัวหลวง อาภรณ์แก้วโมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนู เสด็จมาบนหลังวราหะ (หมู)
ถ้าวันพุธเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม มณฑาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย พระหัตถ์ขวาทรงเข็ม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังคัทรภะ (ลา)
ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม กิริณีเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา พระหัตถ์ขวาทรงขอช้าง พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จมาบนหลังคชสาร (ช้าง)
ถ้าวันศุกร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม กิมิทาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จมาบนหลังมหิงสา (ควาย)
ถ้าวันเสาร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม มโหธรเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จมาบนหลังมยุรา (นกยูง)

วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2551

ปัญหายาเสพติด-ปัญหาสังคมตลอดกาล

สิ่งเสพติด
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สิ่งเสพติด หรือที่เรียกกันว่า "ยาเสพติด" ในความหมายของ องค์การอนามัยโลก (World Health Organization or WHO) จะหมายถึงสิ่งที่เสพเข้าไปแล้วจะเกิดความต้องการทั้งทางร่างกายและจิตใจต่อไปโดยไม่สามารถหยุดเสพได้ และจะต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดจะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่อร่างกายและจิตใจขึ้น
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พุทธศักราช 2522 ที่ใช้ในปัจจุบันได้กำหนดความหมายสิ่งเสพติดให้โทษดังนี้ สิ่งเสพติดให้โทษ หมายถึง สารเคมีหรือวัตถุชนิดใดๆ ซึ่งเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะโดยรับประทาน ดม สูบ ฉีด หรือด้วยประการใดๆ แล้วทำให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจในลักษณะสำคัญ เช่น ต้องเพิ่มปริมาณการเสพขึ้นเรื่อยๆ มีอาการขาดยาเมื่อไม่ได้เสพ มีความต้องการเสพทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างรุ่นแรงอยู่ตลอดเวลา และทำให้สุขภาพทรุดโทรม
ปัจจุบันนี้สิ่งเสพติดนับว่าเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ เพราะสิ่งเสพติดเป็นบ่อเกิดของปัญหาอื่นๆ หลายด้าน นับตั้งแต่ ตัวผู้เสพเองซึ่งจะเกิดความทุกข์ลำบากทั้งกายและใจ และเมื่อหาเงินซื้อยาไม่ได้ก็อาจจะก่อให้เกิดอาชญากรรมต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้พ่อแม่พี่น้อง และสังคม ต้องสูญเสียเงินทอง เสียเวลาทำมาหากิน ประเทศชาติต้องสูญเสียแรงงานและสูญเสียเงินงบประมาณในการปราบปรามและรักษาผู้ติดสิ่งเสพติด และเหตุผลที่ทำให้สิ่งเสพติดเป็นปัญหาสำคัญของประเทศอีกข้อหนึ่งคือ ปัจจุบันมีผู้ติดสิ่งเสพติดเพิ่มมากขึ้นทั้งนี้ยังไม่รวมถึงจำนวนผู้ติดบุหรี่ สุรา ยากระตุ้น หรือกดระบบประสาทที่ผสมอยู่ในเครื่องดื่มต่างๆ

--ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดและการป้องกัน--
ยาเสพติด หมายถึง สารเคมี หรือสารใดก็ตาม ซึ่งเมื่อบุคคลเสพ หรือรับเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าโดยการฉีด การสูบ การกิน การดม หรือวิธีอื่น ติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้วจะก่อให้เกิดเรื้อรัง ซึ่งจะทำให้เกิดความเสื่อมโทรมขึ้นแก่บุคคลผู้เสพ และแก่สังคมด้วย ทั้งจะต้องทำให้ผู้เสพแสดงออกซึ่งลักษณะ ดังนี้
1.ผู้เสพมีความต้องการอย่างแรงกล้า ที่จะเสพยาชนิดนั้น ๆ ต่อเนื่องกันไป และต้องแสวงหายาชนิดนั้น ๆ มาเสพให้ได้ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตาม
2.ผู้เสพจะต้องเพิ่มปริมาณของยาที่เคยใช้ให้มากขึ้นทุกระยะ
3.ผู้เสพจะมีความปรารถนาอยากเสพยาชนิดนั้น ๆ อย่างรุนแรง ระงับไม่ได้ คือ มีการติดและอยากยาทั้งทาง ด้านร่างกายและจิตใจ

--ประเภทของยาเสพติด--
จำแนกตามการออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท แบ่งเป็น 4 ประเภท
1.ประเภทกดประสาท ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีน ยานอนหลับ ยาระงับประสาท ยากล่อมประสาท เครื่องดื่มมึนเมา ทุกชนิด รวมทั้ง สารระเหย เช่น ทินเนอร์ แล็กเกอร์ น้ำมันเบนซิน กาว เป็นต้น มักพบว่าผู้เสพติดมี ร่างกายซูบซีด ผอมเหลือง อ่อนเพลีย ฟุ้งซ่าน อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย
2.ประเภทกระตุ้นประสาท ได้แก่ยาบ้า ยาอี กระท่อม โคเคน มักพบว่าผู้เสพติดจะมีอาการ หงุดหงิด กระวนกระวาย จิตสับสน หวาดระแวง บางครั้งมีอาการคลุ้มคลั่ง หรือทำในสิ่งที่คนปกติ ไม่กล้าทำ เช่น ทำร้ายตนเอง หรือฆ่าผู้อื่น เป็นต้น
3.ประเภทหลอนประสาท ได้แก่ แอลเอสดี และเห็ดขี้ควาย เป็นต้น ผู้เสพติดจะมีอาการประสาทหลอน ฝันเฟื่อง หูแว่ว ได้ยินเสียงประหลาดหรือเห็นภาพหลอนที่น่าเกลียดน่ากลัว ควบคุมตนเองไม่ได้ ในที่สุดมักป่วยเป็นโรคจิต
4.ประเภทออกฤทธิ์ผสมผสาน คือทั้งกระตุ้นกดและหลอนประสาทร่วมกัน ผู้เสพติดมักมี อาการหวาดระแวง ความคิดสับสน เห็นภาพลวงตา หูแว่ว ควบคุมตนเองไม่ได้และป่วยเป็นโรคจิตได้

-- สาเหตุของการติดยาเสพติด--
การติดยาเสพติดอาจเกิดขึ้นได้เนื่องจาก........
1.ความอยากรู้อยากลอง ด้วยความคึกคะนอง
2.เพื่อนชวน หรือต้องการให้เป็นที่ยอมรับจากกลุ่มเพื่อน
3.มีความเชื่อในทางที่ผิด เช่น เชื่อว่ายาเสพติดบางชนิด อาจช่วยให้สบายใจ ลืมความทุกข์ หรือช่วยให้ทำงานได้มากๆ
4.ขาดความระมัดระวังในการใช้ยา เพราะคุณสมบัติของยา บางชนิดอาจทำให้ผู้ใช้ยาเกิดการเสพติดได้โดยไม่รู้ตัว หากใช้ยาอย่างพร่ำเพื่อ หรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยขาดการแนะนำจากแพทย์ หรือเภสัชกร
5.สภาพแวดล้อม ถิ่นที่อยู่อาศัย มีการค้ายาเสพติด หรือมี ผู้ติดยาเสพติด
6.ถูกหลอกให้ใช้ยาเสพติดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
7.เพื่อหนีปัญหา เมื่อมีปัญหาแล้วไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับตัวเองได้

--การป้องกันยาเสพติด--
1.ป้องกันตนเอง ไม่ทดลองยาเสพติดทุกชนิด ถ้ามีปัญหาหรือไม่สบายใจ อย่าเก็บไว้คนเดียว ควรปรึกษาพ่อแม่ ครู ผู้ใหญ่ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เช่น อ่านหนังสือ เล่นกีฬาหรือทำงานอดิเรกต่างๆตามความสนใจ และความถนัดระมัดระวัง การใช้ยาและศึกษาให้เข้าใจถึงโทษภัยของยาเสพติด
2.ป้องกันครอบครัว ควรสอดส่องดูแลเด็ก และบุคคลในครอบครัวอย่าให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อบรมสั่งสอน ให้รู้ถึงโทษภัยของยาเสพติดดูแลเรื่องการคบเพื่อนคอยส่งเสริมให้เขารู้จักการใช้เวลาในทางที่เป็น ประโยชน์ เช่น การทำงานบ้าน เล่นกีฬา ฯลฯ เพื่อป้องกันมิให้เด็กหันเหไปสนใจในยาเสพติด สิ่งสำคัญก็คือทุกคนในครอบครัวควรสร้างความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
3.ป้องกันชุมชน หากพบผู้ติดยาเสพติดควรช่วยเหลือแนะนำให้เข้ารับการบำบัดรักษาโดยเร็ว การสมัครเข้า ขอรับการบำบัดรักษายาเสพติดก่อนที่ความผิดจะปรากฏต่อเจ้าหน้าที่กฎหมายยกเว้นโทษให้ และ เมื่อรู้ว่าใครผิด นำเข้าส่งออก หรือจำหน่ายยาเสพติด ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ศุลกากรนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ หรือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(สำนักงาน ป.ป.ส.)

----ทางที่ดี อย่าอยากรู้และอย่าลอง ดีกว่าครับเรื่องยาเสพติด----

By Spiningdeff♪

วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2551

ว่าด้วยเรื่องของภาษาวิบัติ

คำนิยาม
ภาษาวิบัติ คือ ภาษาที่ถูกแปลงมาจากคำในภาษาเดิม ให้สามารถเขียนได้ในรูปลักษณ์ใหม่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ภาษาวิบัตินี้มักจะผิดหลักในการเขียนอยู่เสมอ
ถ้าจะให้แยกแยะได้ง่ายๆ คำที่ไม่อยู่ในพจนานุกรม และไม่เป็นไปตามกฏของหลักภาษาไทยโดยส่วนใหญ่จะเป็นภาษาวิบัติ
-ประวัติศาสตร์-
---ที่มา---
ผู้ที่เริ่มใช้ภาษาวิบัติเป็นคนแรกนั้น ไม่มีหลักถานปรากฎแน่ชัด
และต่อมา ผู้ที่ทำให้ภาษาวิบัติแพร่หลายมากขึ้นอีกครั้ง คือเด็กโง่คนหนึ่ง ในโฆษณาของบริษัททุย เนื่องจากในโฆษณาดังกล่าว เด็กคนนั้นสะกดคำว่า "ปาฏิหาริย์" ไม่เป็น จึงต้องเขียนว่า "ปาติหาน" และแล้วอีกไม่นานต่อมา คำว่า "ปาติหาน" นี้ก็เป็นที่ยอมรับกันในเหล่าขาแชททั่วไป
การใช้ภาษาวิบัตินั้น ส่วนใหญ่จะใช้ในการแชทกัน (เช่น ออนเอ็ม ของ hotmail เป็นต้น) เนื่องจากต้องการพิมพ์ให้เร็วๆ นั่นเอง แต่ในบางครั้งอาจใช้เพื่อความคิกขุ หรือเพื่อการสื่ออารมณ์ก็ได้

---รูปแบบของภาษาวิบัติ---
ภาษาวิบัติแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือกลุ่มที่ใช้เวลาพูด กับกลุ่มที่ใช้ในเวลาเขียน
-กลุ่มที่ใช้เวลาพูด-
เป็นประเภทของภาษาวิบัติที่ใช้ในเวลาพูดกัน ซึ่งบางครั้งก็ปรากฏขึ้นในการเขียนด้วย แต่น้อยกว่าประเภทกลุ่มที่ใช้ในเวลาเขียน โดยมักพูดให้มีเสียงสั้นลง หรือยาวขึ้น หรือไม่ออกเสียงควบกล้ำเลย ประเภทนี้เรียกได้อีกอย่างว่ากลุ่มเพี้ยนเสียง เช่น
ตะเอง (ตัวเอง) เตง (ตัวเอง) ขอบคุง (ขอบคุณ) แม่ม (แม่มึง)
แสด (สัตว์) พ่อง (พ่อเมิง) สลัด(สัตว์)

--กลุ่มที่ใช้ในเวลาเขียน--
รูปแบบของภาษาวิบัติชนิดนี้ โดยทั้งหมดจะเป็นคำพ้องเสียงที่หลายๆคำมักจะผิดหลักของภาษาอยู่เสมอ โดยส่วนใหญ่กลุ่มนี้จะใช้ในเวลาเขียนเท่านั้น โดยยังแบ่งได้เป็นอีกสามประเภทย่อย

จะวิบัติหาอะไรมิทราบ???
--กลุ่มพ้องเสียง--
รูปแบบของภาษาวิบัติชนิดนี้ จะเป็นคำพ้องเสียง โดยส่วนใหญ่กลุ่มนี้จะใช้ในเวลาเขียนเท่านั้น และคำที่นำมาใช้แทนกันนี้มักจะเป็นคำที่ไม่มีในพจนานุกรม
เทอ(เธอ) จัย(ใจ) งัย(ไง)
นู๋(หนู) มู๋(หมู) ปันยา(ปัญญา)
--กลุ่มขี้เกียจพิมพ์ --
พวกนี้จะคล้ายๆกับกลุ่มคำพ้องเสียง เพียงแต่ว่าบางครั้งการกด Shift มันน่ารำคาญ พวกนี้เลยขี้เกียจกด แล้วเปลี่ยนคำที่ต้องการเป็นอีกคำที่ออกเสียงคล้ายๆกันแทน
กุ(กู) เหน(เห็น) เปน(เป็น)
ซึ่งสองตัวอย่างหลังนี่ ถ้าเคยเปิดอ่านหนังสือเก่าๆ ดู จะพบว่าไปซ้ำกับอักขรวิธีในสมัยก่อน (ประมาณปี พ.ศ. 2480)
.........ถ้าไปถามหลายๆคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลายคนอาจจะให้เหตุผลที่ต่างๆกันไป ..........
๑.เพราะว่าคำพวกนี้พิมพ์ได้ง่าย เข้าใจนะว่า คำภาษาไทยหลายๆคำอาจจะพิมพ์ยุ่งยากมากเรื่อง ดังเช่น คำว่า เดี๋ยว ก็เปลี่ยนเป็น เด๋ว และคำว่า ก็ ก็เปลี่ยนเป็น ก้อ เหตุผลเหรอ มันพิมพ์ง่ายไงล่ะ แต่คุณอาจจะไม่รู้หรอกนะว่า คุณกำลังทำลายภาษาไทย โดยไม่รู้ตัว
๒.ส่วนใหญ่บอกว่ามันแนวดี แต่สงสัยจริงๆว่ามันแนวตรงไหน แบบนี้มัน "บ้า" แล้ว!!ภาษาเค้ามีมาดีๆมาทำเสียหมด
๓.เพื่อแสดงอารมณ์ ว่าตอนนี้กำลัง ผิดหวังหรือเบื่อหน่าย อย่างที่วัยรุ่นเค้าเรียกกันว่า"เซ็ง"น่ะแหล่ะ เพราะบางทีถ้าผิดหวังก็อาจจะลากเสียงคำว่า "ไม่" เป็น "ม่าย..ย..." ถ้าอารมณ์ดีก็อาจจะสั้นหน่อยเป็น "มั่ย"
๔."ขำๆ" ไอ้ที่ว่า"ขำๆ"น่ะหมายความว่าอะไร อารมณ์ดีกันเหลือเกิน คิดคำวิบัติมาใช้กันเกลื่อน
๕."ไม่เห็นเป็นไรเลย มันก็เหมือนๆกันแหละ" เหมือนแค่การออกเสียงน่ะสิแต่ความหมายตามหลักของมันบางครั้งไปคนละทางด้วยซ้ำ
๖."ก็มันติดนี่นา"หลายคนพูดแบบนี้ แสดงว่าคุณใช้มันบ่อยมากไงล่ะ
๗."ก็คำมันดูน่ารักนี่"อยากรู้ว่ามันน่ารักตรงไหนฟะ?
๘."ก็เวลาเล่นMSNมันพิมพ์เร็วนี่"รู้แล้วมันเร็วกว่าแต่ถ้าไม่ใช้ภาษาวิบัติมันก็ไม่เสียเวลามากมายหรอก
๙."ก็พอใจนี่/ก็จะพิมพ์ยังงี้พวกคุณมีสิทธิ์ห้ามเหรอ"ใช่แล้วผมไม่มีสิทธิ์ห้ามหรอกแต่สิ่งพวกนี้มันมาจากตัวคุณนั่นแหละคุณต้องห้ามตัวเอง
อ้างอิงจาก อัลไซโคลปพีเดีย และเวป yenta4

วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2551

อะไรคือเกรียน??

ประวัติ

ในช่วงแร็กนาร็อกออนไลน์เป็นที่นิยมในระยะแรกๆ เยาวชนที่เล่นเกมนี้ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะจัดสรรเวลาและค่าใช้จ่ายของตน เพื่อที่จะเล่นในร้านอินเทอร์เน็ตหรือที่บ้าน กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จึงเข้ามาดูแลส่วนนี้โดยตรง โดยออกข้อบังคับบางประการ เช่น ห้ามเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเล่นเกมออนไลน์ทุกประเภทหลัง 22 นาฬิกา หรือห้ามเล่นเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งข้อบังคับนี้ส่งผลกระทบต่อเยาวชนที่ติดเกมดังกล่าว เยาวชนบางส่วนจึงเข้าไปพูดคุยกันในเว็บบอร์ดของประมูลดอตคอมในลักษณะของการระบายอารมณ์และกล่าวโจมตีกระทรวงไอซีที ซึ่งจุดมุ่งหมายของเว็บไซต์ดังกล่าวคือการซื้อขายสินค้าเท่านั้น แต่ภายหลังเว็บบอร์ดนั้นกลายเป็นที่รวมการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวของเยาวชนที่ขาดการควบคุมดูแล และได้มีการกล่าววลีหนึ่งขึ้นว่า "เกรียน" เพื่อเป็นการดูแคลนเยาวชนเหล่านั้น และคำนี้ได้ถูกนำไปใช้กันอย่างกว้างขวางในเว็บบอร์ดหรือเกมออนไลน์ต่างๆ
คำว่า เกรียน อาจมีที่มาจากทัศนคติของเด็กชายที่ตัดผมสั้นหัวเกรียน (ตามความหมายเดิมของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า สั้นเกือบติดหนังหัว ผิวหนัง หรือพื้นที่) ซึ่งมักจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวในร้านอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการเกมออนไลน์อยู่บ่อยๆ เนื่องจากความไม่พอใจในสถานการณ์บางอย่าง เช่นขณะเล่นเกม หรือความต้องการที่จะก่อกวนผู้อื่น และเมื่อถูกใช้บ่อยครั้งเข้า คำนี้จึงใช้แทนกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่านั้นไปเสีย โดยไม่คำนึงถึงอายุหรือวุฒิภาวะ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มบุคคลเหล่านั้นมักไม่พอใจที่ถูกเรียกว่าเกรียน ซึ่งดูเหมือนเป็นการแบ่งแยกทางสังคม บางครั้งก็กลับเรียกบุคคลอื่นว่าเป็นเกรียนก็มี และเนื่องด้วยนิสัยส่วนตัวที่คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง เกรียนจึงใช้ศัพท์สแลงแทนตัวอีกคำหนึ่งคือ เทพ เช่น เกรียนเทพ เป็นต้น ซึ่งใช้เปรียบว่าตนเองมีอำนาจหรือมีความยิ่งใหญ่เหนือกว่าผู้อื่น และมองผู้อื่นว่าด้อยกว่าตน เนื่องจากจุดเริ่มต้นที่เว็บไซต์หรือระบบในเกมออนไลน์บางแห่งไม่รองรับอักษรไทย จึงเขียนเป็น Inw (ไอ เอ็น ดับเบิลยู) ในลักษณะลีทซึ่งคล้ายคำว่า เทพ คำนี้สามารถพบเห็นได้บ่อยพอๆ กับคำว่าเกรียนและถูกใช้ควบคู่กันเรื่อยมา
เกรียนอาจจัดได้ว่าเป็น "นูบ" (noob) ประเภทหนึ่ง ซึ่งอาจใช้ในความหมายเชิงดูหมิ่น แผลงมาจากคำว่า "นิวบี" หรือ "นูบี" (newbie: อเมริกันอ่านว่า นูบี อังกฤษอ่านว่า นิวบี) คือ ผู้มาใหม่ คนไม่ประสีประสา หมายถึงบุคคลในอินเทอร์เน็ตที่เป็นสมาชิกใหม่ในเว็บบอร์ดหรือเกมออนไลน์หนึ่งๆ ที่ยังไม่รู้จักธรรมเนียมและมารยาทในสังคมนั้น และทำสิ่งที่ผิดพลาดในเรื่องที่ไม่สมควรจะผิดพลาด เป็นต้น
บุคลิกภาพของเกรียน
บุคคลที่อยู่ในสภาวะเกรียน อาจมีบุคลิกภาพต่อไปนี้มากกว่า 1 ข้อ
มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ถึงขั้นที่เชื่อว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ หรือสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง
มี EQ ต่ำ เนื่องจากจะแสดงออกตามอารมณ์เป็นที่ตั้ง โดยไม่คำนึงถึงเหตุผล มีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ
ใช้การแสดงออกทางวาจา (หรือข้อความที่พิมพ์) มากกว่าทางความคิด และใช้คำหยาบคายบ่อยครั้ง
ไม่รู้จักมารยาทในสังคม สร้างความรำคาญและไม่คิดถึงความทุกข์ร้อนของคนรอบข้าง
ชอบเรียกร้องความสนใจ สร้างประเด็นปัญหา ทำให้เกิดข้อขัดแย้งและการทะเลาะวิวาท
มักจะรวมกลุ่มระหว่างเกรียนกันเอง เนื่องจากผู้อื่นไม่คบหาสมาคม
ชอบคิดว่าผู้อื่นด้อยกว่าตน มักจะพยายามหาทางดูถูกผู้อื่นทุกด้าน และจะคิดว่าตนนั้นมีทุกอย่างสมบูรณ์เสมอ
พบได้ทั่วไปตามบอร์ดเช่น บอร์ดประมูล และบอร์ดนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของเกรียน

ติดต่อเรา

holidays_heroes@hotmail.com
คุณสามารถอีเมล์ติ,ชม-เสนอแนะ มาได้ที่ที่อยู่อีเมล์นี้นะครับ
แอดเมล์มาคุยmsnกันก็ได้ครับ